วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2555

เอสโตรเจน ฮอร์โมนสำคัญของผู้หญิง

ฮอร์โมนสำคัญตัวนี้ นอกจากจะช่วยให้ผู้หญิงอย่างเราๆ มีผิวพรรณ รูปร่างสวยงามแล้ว
ยังมีบทบาทกับสุขภาพที่ดีของเราด้วย มารู้จักเอสโตรเจน


เอสโตรเจน (Estrogen) เป็นฮอร์โมนที่ร่างกายผลิตเมื่ออยู่ในช่วงวัยเจริญพันธ์ โดยไข่ในรังไข่ของผู้หญิงจะไปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนออกมา ซึ่งหากร่างกายมีฮอร์โมนนี้ในระดับเหมาะสมก็จะส่งเสริมให้มีลักษณะของความ เป็นผู้หญิงเด่นชัด ผิวพรรณเปล่งปลั่ง  รูปร่างมีส่วนโค้งส่วนเว้า  อีกทั้งยังเป็นตัวประสานทำให้วิตามินดีรวมเข้ากับแคลเซียมเพื่อสร้างกระดูก เรียกได้ว่าเป็นฮอร์โมนสำคัญอีกตัวที่ทำให้ระบบต่างๆ ทำงานทำงานได้อย่างปกติ

นอกจากนี้แล้ว ฮอร์โมนเอสโตรเจนยังมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นระบบรอบเดือน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรค์ ส่วนใหญ่แล้วฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิงแต่ละคนจะผลิตไม่เท่ากัน หากมีฮอร์โมนเอสโตรเจนมากเกินไปจะพบว่ารูปร่างไม่สมส่วนอันเนื่องมาจากการ สร้างและสะสมของไขมันมากเกินไป อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่ายและมีความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งได้หลายชนิด แต่ถ้าร่างกายผลิตเอสโตรเจนน้อยเกินไปร่างกายจะผอมเกร็ง ไม่มีทรวดทรง รอบเดือนไม่ปกติ ผิวพรรณเหี่ยวย่น และเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้มาก จะเห็นได้ว่าฮอร์โมนเอสโตรเจนนี้มีบทบาทสำคัญในการมีสุขภาพที่ดีของผู้หญิง ดังนั้นการรักษาให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่ในระดับปกติถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วร่างกายของผู้หญิงเราจะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ไม่สม่ำ เสมอขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา

ปัจจัยที่ทำให้ร่างกายขาดเอสโตรเจน

  1. lifestyle สำหรับคนที่ต้องทำงานเร่งด่วน มีภาระต้องคิดต้องตัดสินใจอยู่เสมอ ส่งผลให้ร่างกายสร้างฮอร์โมน เทสโทสเทอโรน (Testoterone ฮอร์โมนเพศชาย) ขึ้นมาแทนเอสโตรเจน เพื่อทำให้กล้าตัดสินใจ แกร่ง เด็ดเดี่ยว
  2. อายุที่มากขึ้น ทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนน้อยลงไปเองตามธรรมชาติ สำหรับหญิงวัยหมดประจำเดือนก็จะพบกับภาวะที่ร่างกายขาดเอสโตรเจนไปตามวัย
  3. การผ่าตัดรังไข่ทิ้งเนื่องจากมีปัญหา

    FANASIA ฟานาเซีย
    ช่วยกระชับทรวงอกให้เต่งตึง คืนความสาว กระชับช่องคลอด
    ช่วยให้ผิวขาว เนียนใส ภายในกระชับ ไร้กลิ่นตกขาว
    รับประทานแล้ว สตรีมีบุตรสัก 10 คนยังดีกว่าสาวพรหมจารี
    ไม่ต้องรีแพร์ คืนความสุขให้คุณและคู่รัก
    เหมาะสำหรับผู้หญิงทุกคนที่มีอาการปวดประจำเดือน
    หรือมีตกขาววัยหมดประจำเดือน หงุดหงิดง่าย ผิวไม่สวย ผิวไม่สดใส
    มีริ้วรอยเหี่ยวย่น นอนไม่ค่อยหลับ แก้ปัญหาผิวพรรณต่างๆ
    ชะลอความแก่ กำจัดสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำไร้ริ้วรอย ผิวเต่งตึง
    กระชับ สัดส่วน เช่น หน้าอก แก้ม คาง ถุงใต้ตา ต้นแขน ต้นขา
    หน้าท้อง เอว บั้นท้าย และส่วนอื่นๆ


    ราคากล่องละ 1000 บาท มี 30 แคปซูล
    สนใจติดต่อ 081-5581828 เบอร์ลาว 23889422

วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2555

มะเร็งปากมดลูก โรคมะเร็งปากมดลูก

แม้ มะเร็งปากมดลูก จะเป็นโรคที่ป้องกันและรักษาให้หายได้ แต่ โรคมะเร็งปากมดลูก  ยังคงครองแชมป์อันดับหนึ่งของมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้หญิง โดยมีอัตราการเสียชีวิตของ มะเร็งปากมดลูก เฉลี่ยสูงถึง 7 คนต่อวัน  และพบผู้ป่วย มะเร็งปากมดลูก รายใหม่สูงถึง 6,000 คนต่อปี โดยในจำนวนของผู้มีเชื้อนี้กว่าครึ่งต้องเสียชีวิต เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่มักอายและกลัวที่จะไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อมะเร็ง ทำให้กว่าจะรู้ว่าป่วยด้วย โรคมะเร็งปากมดลูก นี้  ความรุนแรงของโรคก็อยู่ในระยะลุกลามแล้ว..ดังนั้น  วันนี้เราจึงนำข้อมูลเกี่ยวกับ มะเร็งปากมดลูก มาให้คุณรู้เท่าทัน โรคมะเร็งปากมดลูก กันครับ

โรคมะเร็งปากมดลูก (Cancer of Cervix)  เกิดจากเชื้อไวรัสตัวหนึ่งที่ชื่อว่า HPV (Human Papilloma Virus) ภาษาไทยเรียกกันว่า ไวรัสหูด ไวรัสชนิดนี้ติดต่อจากการสัมผัส ส่วนใหญ่เป็นการสัมผัสทางเพศสัมพันธ์ที่ทำให้มีรอยถลอกของผิวหรือเยื่อบุ และเชื้อไวรัสจะเข้าไปที่ปากมดลูก ทำให้ปากมดลูกมีการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อหรือเซลล์ จากปากมดลูกปกติกลายเป็นระยะก่อนเป็น มะเร็งปากมดลูก

ไวรัสเอชพีวี มีทั้งหมดกว่า 100 ชนิด แต่ที่ทำให้ติดเชื้ออวัยวะสืบพันธุ์มีประมาณ 30-40 ชนิด แบ่งเป็นสองกลุ่มคือ กลุ่มเสี่ยงต่ำและกลุ่มเสี่ยงสูง กลุ่มเสี่ยงต่ำไม่ก่อให้เกิดมะเร็ง แต่ทำให้เกิดหูดหงอนไก่ที่อวัยวะเพศ หรือหูดที่กล่องเสียง ส่วนกลุ่มเสี่ยงสูงก่อมะเร็งต่างๆ ได้แก่ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด และมะเร็งปากช่องคลอด

สำหรับความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชพีวีดำเนินได้โดยง่าย เชื้อชนิดนี้เป็นเชื้อที่ทนทานต่อความร้อน และความแห้งได้ดี สามารถเกาะติดตามผิวหนัง อวัยวะเพศ เสื้อผ้า หรือแม้แต่กระจายอยู่รอบตัวในรูปของละอองฝุ่น ซึ่งผู้หญิงทุกคนที่เคยมีเพศสัมพันธ์ย่อมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชพีวี อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อมักหายได้เอง ด้วยภูมิต้านทานของร่างกาย มีเพียง 10% เท่านั้น ที่การติดเชื้อยังดำเนินต่อไป สร้างความผิดปกติให้กับเยื่อบุปากมดลูก และทำให้กลายเป็นมะเร็งในเวลาต่อมา ซึ่งเมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายจนกระทั่งก่อให้เกิด มะเร็งปากมดลูก ได้นั้น ใช้เวลานานประมาณ 10-15 ปี

ปัจจัยเสี่ยง มะเร็งปากมดลูก
- การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย
- การมีคู่นอนหลายคน หรือฝ่ายชายที่เราร่วมหลับนอนมีคู่นอนหลายคน
- การคลอดบุตรจำนวนหลายคน
- การสูบบุหรี่
- การมีภาวะคุ้มกันต่ำ โดยเฉพาะเป็นโรคเอดส์ 
- การสูบบุหรี่
- พันธุกรรม
- การขาดสารอาหารบางชนิด

ปัจจัยเสี่ยงจากฝ่ายชาย ที่อาจทำให้ผู้หญิงเป็น มะเร็งปากมดลูก
- ผู้ชายที่มีประวัติโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย
- ผู้หญิงที่มีสามีเป็นมะเร็งองคชาติ
- ผู้หญิงที่มีสามีเคยมีภรรยาเป็น มะเร็งปากมดลูก
- ผู้ชายที่มีคู่นอนหลายคน

อาการและการรักษา โรค มะเร็งปากมดลูก

           โรค มะเร็งปากมดลูก มักพบในผู้หญิงอายุ 35 - 60 ปี แต่ก็อาจพบ มะเร็งปากมดลูก ก่อนวัยอันควรได้  ทั้งนี้ อาการของผู้ป่วย มะเร็งปากมดลูก จะมากหรือน้อยขึ้นกับระยะของมะเร็ง ซึ่งอาการที่พบในผู้ป่วย โรคมะเร็งปากมดลูก ได้แก่

           อาการตกเลือดทางช่องคลอด เป็นอาการที่พบได้มากที่สุดประมาณร้อยละ 80 – 90  ของผู้ป่วย มะเร็งปากมดลูก ลักษณะเลือดที่ออกอาจจะเป็นเลือดออกกะปริบกะปรอยระหว่างรอบเดือน มีตกขาวผิดปกติ กลิ่นเหม็น มีเลือดปน หรือมีเลือดออกเวลามีเพศสัมพันธ์ ถ้าเป็นมากและมะเร็งลุกลามออกไปด้านข้าง หรือลุกลามไปที่อุ้งเชิงกรานก็จะมีอาการปวดหลังได้ เพราะไปกดทับเส้นประสาท

           อาการในระยะหลังเมื่อมะเร็งลุกลามหรือไปสู่อวัยวะอื่นๆ ได้แก่ ขาบวม ปวดหลัง  ปวดก้นกบ ปัสสาวะเป็นเลือด ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด เป็นต้น

           โรค มะเร็งปากมดลูก แบ่งเป็น 0-4 ระยะ ดังนี้

           ระยะ 0  คือ เซลล์มะเร็งยังไม่กระจาย วิธีรักษา มะเร็งปากมดลูก ระยะ 0 คือ ผ่าตัดเล็ก ซึ่งใช้เวลาเพียง 15 นาที และตรวจติดตามอาการ การรักษาระยะนี้ได้ผลเกือบ 100%

           ระยะที่ 1 เซลล์มะเร็งอยู่ที่ปากมดลูก การรักษา มะเร็งปากมดลูก ระยะ 1 คือผ่าตัดใหญ่ ผ่าตัดมดลูก เลาะต่อมน้ำเหลืองในเชิงกราน ซึ่งได้ผลดีถึง 80%

            ระยะที่ 2 เซลล์มะเร็งกระจายออกจากปากมดลูก โดยยังไม่ไปไกลมาก แต่ก็ไม่สามารถผ่าตัดได้ การรักษา มะเร็งปากมดลูก ระยะที่ 2 นี้ ต้องรักษาด้วยการฉายรังสี และการให้เคมีบำบัด  (คีโม) ได้ผลราว 60%

            ระยะที่ 3 เซลล์มะเร็งกระจายชิดเชิงกราน การรักษา มะเร็งปากมดลูก ระยะที่ 3 คือใช้รังสีรักษา และการให้เคมีบำบัด การรักษาระยะนี้ได้ผลประมาณ 20-30%

           ระยะที่ 4 เป็นระยะที่เซลล์มะเร็งกระจายทั่วร่างกาย การรักษา มะเร็งปากมดลูก ระยะที่ 4 คือการให้คีโม และรักษาตามอาการ โดยหวังผลได้เพียง 5-10% และโอกาสรอดน้อยมาก แต่ก็ไม่แน่ โดยมีผู้ป่วย มะเร็งปากมดลูก บางรายสามารถอยู่ต่อได้นานถึง 1-2 ปี จึงเสียชีวิต

ผลข้างเคียงจากการรักษาโรค มะเร็งปากมดลูก

           การผ่าตัด ผลข้างเคียงจากการผ่าตัดที่อาจเกิดได้ ได้แก่ การตกเลือด การติดเชื้อ อันตรายต่ออวัยวะใกล้เคียง
           การฉายแสง (ระยะเวลา 1-2 เดือน) ผลข้างเคียง คือ ผิวแห้ง ปัสสาวะมีเลือดปน อ่อนเพลีย
           ยาเคมีบำบัด ผลข้างเคียงคือ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน ผมร่วง มือเท้าชา ซึ่งขึ้นกับยาแต่ละชนิดที่เลือกใช้


ผู้หญิงควรจะเริ่มตรวจหาโรค มะเร็งปากมดลูก เมื่อใด

           ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ทุกช่วงอายุ ควรมาตรวจคัดกรองเชื้อ มะเร็งปากมดลูก หรือที่เรียกว่า แพปสเมียร์ (Pap Smear)   อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และผู้หญิงที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ควรเริ่มเมื่อ อายุ 30 ปีขึ้นไป แต่ในกรณีที่เริ่มพบความผิดปกติแพทย์อาจนัดให้ไปตรวจถี่ขึ้น

           ทั้งนี้ แพปสเมียร์ คือ วิธีการตรวจหาความผิดปกติ หรือโรค มะเร็งปากมดลูก ที่ค่อนข้างง่าย ใช้เวลาเพียง 2–3 นาทีเท่านั้น เป็นการตรวจที่ทำควบคู่ไปกับการตรวจภายในของผู้หญิง แพทย์จะสอดเครื่องมือเข้าไปในช่องคลอด โดยใช้ไม้ขนาดเล็กขูดเบาๆ เพื่อเก็บเซลล์มาป้ายบนแผ่นกระจก และนำไปตรวจหาความผิดปกติ โดยก่อนที่จะตรวจ ควรเตรียมร่างกายให้พร้อม ไม่ควรตรวจในช่วงระหว่างมีประจำเดือน งดการมีเพศสัมพันธ์ และงดการสวนล้างช่องคลอด หรือสอดยาใดๆ ก่อนเข้าทำการตรวจ ข้อดีคือ วิธีการตรวจแบบแพปสเมียร์นี้ จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็น โรคมะเร็งปากมดลูก ได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์


ฟานาเซีย ช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้

ราคากล่องละ 1000 บาท มี 30 แคปซูล
สนใจติดต่อ 081-5581828 เบอร์ลาว 23889422

โปรโมชั่นพิเศษ ซื้อ 3 แถม 1

ปัญหาของผู้หญิง

ปัญหาของผู้หญิงส่วนใหญ่

หน้าท้องบวม โต ปวดประจำเดือน เลือดออกเป็นลิ่ม ติดเชื้อ คันช่องคอลอด
มีระดุขาวประจำ มีกลิ่นเหม็น ช่องคลอดขยายตัวออก (หลวมไม่ฟิต)
ปากมดลูกต่ำ มีเพศสัมพันธ์เจ็บ เสี่ยงต่อการเป็น มะเร็งปากมดลูก ซีด พังผืด เนื้องอก
ลมเข้าช่องคลอด (ผ่ายลมผิดที่) กล้ามเนื้อหย่อน แก้ม หน้าอกถุงใต้ตาบวม (แก่ก่อนวัย)
หูรูดหย่อน อั้นปัสสวะไม่อยู่ เบ่งปัสสาวะไม่ออก ปากมดลูกไหลมาปิด ติดลูกยาก แท้งลูกง่าย
ผิวสาก ไม่แวว เป็นสิวอักเสบเรื้อรัง ฝ้า กระ หมองคล้ำ ไม่มีสาบสาว ไม่มีเสน่ห์ (วัยทอง)
ผู้หญิงที่ตัดมดลูกทิ้ง




มดลูกดี มดลูกต้องเล็ก มดลูกเล็ก หน้าท้องจะนูนตรงกลาง ข้างๆเอวจะแฝบเข้า มดลูกที่มีความปกติ
หน้าท้องนูนตรงกลาง ไม่มีของเสียสะสม ไม่มีกลิ่นภายใน แต่  มีสาบสาว (เสน่ห์)
มดลูกจะยืดหดได้ขึ้นอยู่กับสภาวะอารมณ์ สาเหตุหลัก ที่ทำให้มดลูกคลายตัวคือ
อารมณ์เครียดสะสมโดยไม่รู้ตัว ขี้กลัว ขี้ตกใจง่าย ทานของหมักดอง ของแสลง
(หรือคนที่ชอบดื่มน้ำมะพร้าวมากๆ) สตรีมีบุตรแล้ว



ฟานาเซีย ช่วยแก้ปัญหาของสุภาพสตรีได้

ราคากล่องละ 1000 บาท มี 30 แคปซูล
สนใจติดต่อ 081-5581828 เบอร์ลาว 23889422

โปรโมชั่นพิเศษ ซื้อ 3 แถม 1

วันเสาร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2555

ฟานาเซีย FANASIA




ราคากล่องละ 1000 บาท มี 30 แคปซูล
สนใจติดต่อ 081-5581828 เบอร์ลาว 23889422

โปรโมชั่นพิเศษ ซื้อ 3 แถม 1

FANASIA ฟานาเซีย
http://ทีมมังกรฟ้า.com
ช่วยกระชับทรวงอกให้เต่งตึง คืนความสาว กระชับช่องคลอด
ช่วยให้ผิวขาว เนียนใส ภายในกระชับ ไร้กลิ่นตกขาว
รับประทานแล้ว สตรีมีบุตรสัก 10 คนยังดีกว่าสาวพรหมจารี
ไม่ต้องรีแพร์ คืนความสุขให้คุณและคู่รัก
เหมาะสำหรับผู้หญิงทุกคนที่มีอาการปวดประจำเดือน
หรือมีตกขาววัยหมดประจำเดือน หงุดหงิดง่าย ผิวไม่สวย ผิวไม่สดใส
มีริ้วรอยเหี่ยวย่น นอนไม่ค่อยหลับ แก้ปัญหาผิวพรรณต่างๆ
ชะลอความแก่ กำจัดสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำไร้ริ้วรอย ผิวเต่งตึง
กระชับ สัดส่วน เช่น หน้าอก แก้ม คาง ถุงใต้ตา ต้นแขน ต้นขา
หน้าท้อง เอว บั้นท้าย และส่วนอื่นๆ

สนใจติดต่อ 081-5581828 เบอร์ลาว 23889422